


MASTERY FILMS
ประเทศไทยเป็นโลเคชั่นยอดนิยมสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์ ด้วยความสวยงามของทะเล ภูเขา และเมืองต่างๆ หนังดังหลายเรื่องอย่าง Fast & Furious 9 และ The Beach ก็ถ่ายทำที่นี่ และในปี 2025 โปรเจกต์ใหม่ๆ อย่าง Jurassic World: Rebirth และ Alien: Earth ของ Disney+ ก็พิสูจน์ว่าประเทศไทยยังคงเป็นที่ต้องการในวงการนี้
ถ้าอยากมาถ่ายทำที่ไทย คุณต้องมีใบอนุญาตถ่ายทำ ซึ่งจะทำให้การทำงานของคุณถูกกฎหมาย ป้องกันปัญหา และช่วยให้การประสานงานกับทีมงานและสถานที่ในประเทศเป็นไปอย่างราบรื่น หากได้ร่วมงานกับทีมงานประสานงานที่ถูกต้อง ประเทศไทยก็มีทีมงานมืออาชีพ อุปกรณ์ที่ทันสมัย และค่าใช้จ่ายที่ไม่แพง ทำให้ที่นี่เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการถ่ายทำหนัง ทีวี และโฆษณา
กองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ (Thailand Film Office หรือ TFO) เป็นหน่วยงานที่ออกใบอนุญาตถ่ายทำให้กับกองถ่ายต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ โฆษณา สารคดี หรือแม้แต่การถ่ายภาพเพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ก็ต้องขอใบอนุญาต เพื่อยืนยันว่าบทถ่ายทำไม่ขัดต่อกฎหมายและวัฒนธรรมไทย และช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานท้องถิ่น
ใบอนุญาตนี้ไม่ได้หมายความว่าคุณจะถ่ายที่ไหนก็ได้ คุณยังต้องขออนุญาตจากสถานที่นั้นๆ อีกครั้ง เช่น วัด อุทยานแห่งชาติ หรือสถานที่ส่วนบุคคล ถ้าคุณถ่ายทำโดยไม่มีใบอนุญาต อาจถูกปรับหรือถูกยึดฟุตเทจได้
อ่านเพิ่มเติม: TFO Thailand Film Office Website
เกือบทุกกองถ่ายจากต่างประเทศต้องขอใบอนุญาต ทั้งหนัง ละคร มิวสิกวิดีโอ รายการท่องเที่ยว และโฆษณา แม้แต่ทีมงานเล็กๆ ที่จะถ่ายทำในพื้นที่มรดกทางวัฒนธรรม หรือถ่ายภาพเพื่อการโฆษณา ก็ต้องยื่นเรื่องเหมือนกัน มีแค่โปรดักชันที่เจ้าของเป็นคนไทยและทีมงานเป็นคนไทยทั้งหมดเท่านั้นที่ได้รับการยกเว้น ถ้าทีมของคุณมีคนต่างชาติ บริษัทต่างชาติ หรืออุปกรณ์จากต่างประเทศแม้แต่นิดเดียว ก็ต้องยื่นขอใบอนุญาตผ่านบริษัทโปรดักชั่นคนไทยเท่านั้น
ใบอนุญาตถ่ายทำในไทยจะช่วยให้ถ่ายทำในสถานที่ที่ได้รับอนุมัติได้ และยังเป็นการยืนยันว่าบทถ่ายทำได้รับการตรวจสอบจากทางการแล้ว แต่ยังต้องขออนุญาตเพิ่มเติมสำหรับสถานที่เฉพาะทาง เช่น วัด อุทยานแห่งชาติ หรือที่ส่วนบุคคล รวมถึงต้องปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมไทย กฎหมายแรงงาน และกฎหมายภาษี รวมถึงการขอใบอนุญาตทำงานสำหรับทีมงานด้วย
ขั้นตอนที่ 1: จ้างผู้ประสานงานท้องถิ่น (Local Coordinator) บริษัทให้บริการโปรดักชั่นในไทยที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องจะเป็นผู้รับผิดชอบยื่นคำขอ ดำเนินการขออนุมัติจากหน่วยงานต่างๆ จัดการเรื่องโลจิสติกส์ และดูแลเรื่องศุลกากร วีซ่า และภาษีให้
ขั้นตอนที่ 2: กรอกแบบฟอร์มและยื่นเอกสาร แบบฟอร์มสามารถขอได้ที่สถานทูต กองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ หรือการท่องเที่ยว ควรยื่นล่วงหน้าอย่างน้อย 5–14 วันทำการ ขึ้นอยู่กับประเภทโปรเจ็กต์
ขั้นตอนที่ 3: เตรียมเอกสารที่จำเป็น เตรียมบทถ่ายทำ ตารางถ่ายทำ หนังสือเดินทางของทีมงาน รายการอุปกรณ์ และรายละเอียดสถานที่ถ่ายทำให้พร้อม ถ้ามีการใช้โดรน ถ่ายทำในวัด หรืออุทยานแห่งชาติ จะต้องมีเอกสารขออนุญาตเพิ่มเติม
ขั้นตอนที่ 4: ยื่นขอวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน ทีมงานที่อยู่เกิน 15 วัน ต้องขอวีซ่าประเภท Non-Immigrant “B” และใบอนุญาตทำงานชั่วคราว ส่วนโปรเจกต์สั้นๆ ที่ไม่เกิน 15 วัน แค่แจ้งให้ทราบก็พอ ไม่ต้องขอใบอนุญาต
ขั้นตอนที่ 5: ดำเนินการนำเข้าและส่งออกอุปกรณ์ อุปกรณ์ต้องสำแดงที่ด่านศุลกากร อาจต้องใช้เอกสาร ATA Carnet หรือเอกสารอื่นๆ และต้องจ่ายค่าธรรมเนียมส่งออกและผ่านการตรวจสอบศุลกากรตอนออกจากประเทศ
ขั้นตอนที่ 6: แจ้งสำนักงานภาพยนตร์เมื่อเดินทางถึงไทย เมื่อมาถึง จะมีตัวแทนจากคณะกรรมการ กองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ มาเป็นผู้ดูแลการถ่ายทำ
ขั้นตอนที่ 7: ททำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ต้องแจ้งกำหนดการล่วงหน้า และรับผิดชอบค่าธรรมเนียม ค่าที่พัก และค่าเดินทางของเจ้าหน้าที่
ขั้นตอนที่ 8: ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านเนื้อหา เนื้อหาในการถ่ายทำต้องไม่ส่งผลกระทบต่อวัฒนธรรม ศาสนา ความมั่นคง หรือศีลธรรมของไทย ฉากที่รุนแรงหรือละเอียดอ่อนอาจต้องมีการแก้ไข
ขั้นตอนที่ 9: ตรวจสอบฟุตเทจและดำเนินการส่งออก นำฟุตเทจที่ถ่ายทำไปแสดงต่อคณะกรรมการฯ เพื่อขออนุมัติและจ่ายค่าธรรมเนียมส่งออกก่อนออกจากประเทศ
ใบอนุญาตถ่ายทำไม่สามารถใช้แทนกฎด้านตรวจคนเข้าเมืองได้ หากทีมงานอยู่ไม่เกิน 15 วัน สามารถใช้วีซ่าท่องเที่ยวได้แต่ต้องแจ้งกองภาพยนตร์และวีดิทัศน์ แต่ถ้าเกิน 15 วัน จะต้องยื่นวีซ่า Non-Immigrant “B” และ Work Permit ทีมงานต่างชาติทุกคนต้องเสียภาษีรายได้ในประเทศไทย แต่มีข้อยกเว้นสำหรับนักแสดงที่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเป็นเวลา 5 ปี
ประเทศไทยมีมาตรการคืนเงินที่น่าสนใจสำหรับกองถ่ายที่ใช้จ่ายในประเทศอย่างน้อย 50 ล้านบาท โดยมีอัตราคืนเงินพื้นฐานที่ 15% และมีโบนัสเพิ่มเติมสำหรับการจ้างทีมงานไทย ถ่ายทำในต่างจังหวัด หรือทำขั้นตอนหลังการถ่ายทำ (post-production) ในไทย ซึ่งสูงสุดได้ถึง 30% แต่ไม่เกิน 75 ล้านบาท บริษัทโปรดักชั่นไทยจะเป็นคนจัดการเรื่องการยื่นขอและเอกสารต่างๆ ให้
ใบอนุญาตถ่ายทำไม่ได้แปลว่าจะเข้าถ่ายทำทุกที่ได้ สถานที่เช่น วัด สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ หรืออุทยานแห่งชาติ ต้องมีการอนุมัติและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ส่วนการใช้โดรนก็ต้องขออนุญาตจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยด้วย นอกจากนี้ พ.ร.บ. ภาพยนตร์และวิดีทัศน์ของไทยยังมีข้อจำกัดสำหรับเนื้อหาบางประเภท เช่น ความรุนแรงเกินจริง การทารุณกรรมสัตว์ การใช้ยาเสพติด และเนื้อหาที่ขัดต่อวัฒนธรรมหรือศาสนา
ปัญหาการทำงานมักเกิดจากเอกสารไม่ครบ เปลี่ยนบทในนาทีสุดท้าย หรือประเมินเวลาในการขออนุญาตผิดพลาด เพื่อป้องกันปัญหานี้ ควรทำตามคำแนะนำต่อไปนี้
ประเทศไทยยังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายถ่ายทำที่น่าสนใจที่สุดในเอเชีย ด้วยภูมิประเทศที่หลากหลาย ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ อุปกรณ์ทันสมัย และค่าใช้จ่ายที่แข่งขันได้ ในปี 2023 มีโปรเจ็กต์ต่างชาติมากกว่า 460 โปรเจ็กต์เข้ามาถ่ายทำ สร้างรายได้กว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อรวมกับสิทธิประโยชน์ด้านการคืนเงินและการสนับสนุนจากรัฐบาล ประเทศไทยจึงยังคงเป็นศูนย์กลางโปรดักชั่นระดับโลก
การขอใบอนุญาตถ่ายทำในไทยต้องมีการวางแผนบ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากถ้าทำตามกฎระเบียบ ด้วยความช่วยเหลือจากบริษัทโปรดักชั่นในประเทศ เอกสารที่พร้อม และการเคารพวัฒนธรรมไทย การถ่ายทำของคุณก็จะผ่านไปอย่างราบรื่น เมื่อรวมกับเงินสนับสนุน ทีมงานมืออาชีพ และโลเคชั่นที่ยอดเยี่ยมแล้ว ประเทศไทยจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะมากๆ สำหรับการถ่ายทำหนัง รายการทีวี และโฆษณา
1. ใบอนุญาตถ่ายทำในไทยคืออะไร? ใบอนุญาตถ่าย คือ การอนุมัติอย่างเป็นทางการจาก กองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ (Thailand Film Office หรือ TFO) ภายใต้กรมการท่องเที่ยว อนุญาตให้โปรดักชั่นต่างชาติถ่ายทำได้อย่างถูกกฎหมายในสถานที่ที่ได้รับอนุญาต
2. ทำไมต้องมีใบอนุญาตถ่ายทำในไทย? เพื่อให้มั่นใจว่าโปรดักชั่นของคุณเป็นไปตามกฎหมายไทย เคารพต่อวัฒนธรรม และได้รับการอนุญาตอย่างเป็นทางการในการถ่ายทำในพื้นที่สาธารณะหรือส่วนบุคคล นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันทีมงานของคุณจากปัญหาทางกฎหมายและการถูกปรับระหว่างการถ่ายทำ
3. โปรดักชั่นจากต่างประเทศทุกเรื่องต้องมีใบอนุญาตไหม? ใช่ ทุกโปรดักชั่นที่มีทีมงาน นักแสดง บริษัท หรืออุปกรณ์จากต่างประเทศต้องมีใบอนุญาต มีเพียงโปรดักชั่นที่เจ้าของเป็นคนไทยและทีมงานเป็นคนไทยทั้งหมดเท่านั้นที่ได้รับการยกเว้น แม้แต่กองถ่ายเล็กๆ ในพื้นที่มรดกทางวัฒนธรรม อุทยานแห่งชาติ หรือพื้นที่สาธารณะก็ต้องขออนุญาต
4. ขอใบอนุญาตถ่ายทำในไทยได้อย่างไร? การยื่นคำขอต้องทำผ่านบริษัทผู้ประสานงาน หรือบริษัทให้บริการโปรดักชั่นที่ขึ้นทะเบียนในไทยเท่านั้น ผู้ประสานงานจะเป็นผู้จัดเตรียมเอกสารที่จำเป็น ยื่นเรื่องให้กับ กองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ และติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่แทนคุณ
5. เอกสารที่ต้องใช้มีอะไรบ้าง?
6. ค่าใช้จ่ายในการขอใบอนุญาตถ่ายทำเท่าไหร่? ตัวใบอนุญาตเองไม่มีค่าใช้จ่าย แต่คุณต้องเตรียมงบประมาณสำหรับสิ่งเหล่านี้
7. ใช้เวลาในการอนุมัตินานแค่ไหน? โดยทั่วไปใบอนุญาตจะใช้เวลาประมาณ 7–10 วันทำการสำหรับโปรเจกต์ทั่วไป สำหรับการถ่ายทำที่ซับซ้อน เช่น ที่มีโลเคชันละเอียดอ่อน ทีมงานเยอะ หรือมีฉากเสี่ยงอันตราย อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการตรวจสอบและอนุมัติ
8. เมื่อได้ใบอนุญาตแล้วจะถ่ายทำที่ไหนก็ได้ในไทยใช่ไหม? ใบอนุญาตจะครอบคลุมเฉพาะสถานที่ที่ระบุไว้ในใบคำขอเท่านั้น ยังคงต้องมีการอนุมัติแยกต่างหากสำหรับสถานที่อย่างวัด เขตพระราชฐาน พื้นที่ทหาร หรือพื้นที่คุ้มครอง เช่น อุทยานแห่งชาติและพื้นที่มรดกทางวัฒนธรรม
9. ถ้าถ่ายทำโดยไม่มีใบอนุญาตในไทยจะเกิดอะไรขึ้น? การถ่ายทำโดยไม่มีใบอนุญาตถือว่าผิดกฎหมาย อาจทำให้โปรดักชั่นถูกสั่งหยุด ถูกยึดอุปกรณ์ ถูกปรับ และทีมงานอาจมีปัญหาเรื่องการเข้าเมืองหรือปัญหาทางกฎหมาย นอกจากนี้ยังอาจส่งผลต่อการขออนุญาตถ่ายทำในไทยในอนาคต
10. ทีมงานต่างชาติยื่นขออนุญาตเองได้ไหม หรือต้องมีผู้ประสานงานในไทย? ทีมงานต่างชาติไม่สามารถยื่นขอเองได้ ตามกฎหมายแล้ว คำขอทั้งหมดต้องยื่นผ่านผู้ประสานงาน หรือบริษัทให้บริการโปรดักชั่นในไทยที่ได้รับใบอนุญาตเท่านั้น จะทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานอย่างเป็นทางการกับกองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าโปรเจกต์ของคุณเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมายทั้งหมด
การขอใบอนุญาตถ่ายทำในไทยอาจดูซับซ้อน แต่กับ MASTERY FILMS ทุกอย่างจะเป็นเรื่องง่าย เพราะเราจัดการทุกขั้นตอนให้คุณ ตั้งแต่เรื่องเอกสาร การยื่นบท ใบอนุญาตทำงานของทีมงาน การจัดการเรื่องศุลกากร ไปจนถึงการขออนุญาตสถานที่ ไม่ว่าคุณจะถ่ายหนัง ซีรีส์ โฆษณา หรือมิวสิกวิดีโอ ทีมงานของเราจะทำให้โปรดักชั่นของคุณถูกต้องตามกฎหมาย ราบรื่น และไร้กังวล