


MASTERY FILMS
ผู้สร้างภาพยนตร์มักมองหาวิธีประหยัดงบประมาณอยู่เสมอ หลายประเทศทั่วโลกใช้มาตรการสิทธิประโยชน์ด้านภาษีเพื่อล่อให้กองถ่ายเข้ามา สร้างงาน และโปรโมตสถานที่ของตนเอง ประเทศไทยเองก็ได้พัฒนาโครงการสิทธิประโยชน์เพื่อแข่งขันกับฮับการถ่ายทำระดับโลกอย่าง สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เยอรมนี แอฟริกาใต้ และรัฐต่าง ๆ ของสหรัฐอเมริกา บทความนี้จะอธิบายว่า สิทธิประโยชน์ภาษีกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศในไทยทำงานอย่างไร และเปรียบเทียบกับประเทศยอดนิยมอื่น ๆ
| ประเทศ | เงินคืน | โบนัสเพิ่มเติม | เพดานสิทธิ์ | หมายเหตุสำคัญ |
|---|---|---|---|---|
| ไทย | คืนเงินสด 15% | +5% โปรโมตวัฒนธรรม/ท่องเที่ยว, +5% จ้างทีมงานหลักไทย, +3% ถ่ายทำต่างจังหวัด, +3% ใช้โพสต์โปรดักชันไทย (รวมสูงสุด 30%) | ไม่มีเพดานโครงการ | ต้นทุนต่ำ อนุญาตเร็ว (1–2 สัปดาห์) ลูกเรือต่างชาติยกเว้นภาษี |
| สหรัฐฯ (รัฐต่าง ๆ) | Georgia 20% (+10% หากใช้โลโก้), NY 30% (+10% ถ่าย Upstate), NM 25–40%, CA 20–25% | แตกต่างกันไปตามรัฐ | บางรัฐมีเพดานหรือต้องจับสลาก | สิทธิประโยชน์สูง แต่ต้นทุนรวมแพงมาก |
| แคนาดา | เครดิตแรงงาน 16% ระดับประเทศ | เครดิตจังหวัด 20–36% | ไม่มีเพดานระดับประเทศ | สิทธิประโยชน์สูง แต่ค่าแรงและค่าอุปกรณ์แพง |
| สหราชอาณาจักร | เครดิต AVEC 34% (รับจริงประมาณ 25.5%) | — | ไม่มีเพดานโครงการ | ต้องผ่าน cultural test ค่าใช้จ่ายสูงมาก |
| ออสเตรเลีย | Location Offset 30% (ขั้นต่ำ AUD 20M), PDV 30% สำหรับโพสต์/VFX | บางรัฐเพิ่ม 5–15% | ขั้นต่ำการใช้จ่ายสูง | เหมาะกับหนังฟอร์มยักษ์ แต่ไม่ค่อยเหมาะกับหนังงบกลาง |
| นิวซีแลนด์ | เงินคืนพื้นฐาน 20% | +5% หากได้ประโยชน์เพิ่มเติม (เช่น โปรโมตท่องเที่ยว/ฝึกอบรมทีมงาน), PDV 20% สำหรับโพสต์/VFX | ขั้นต่ำการใช้จ่ายสูง | สิทธิ์คล้ายไทย แต่ค่าลูกเรือแพงกว่า |
| เยอรมนี | สูงสุด 30% | — | งบรวมต่อปีและมีเพดานโครงการ | เหมาะกับเรื่องที่มีโทนยุโรป แต่ค่าใช้จ่ายสูง |
| แอฟริกาใต้ | เงินคืนพื้นฐาน 25% | สูงสุด 30% หากเน้นโพสต์โปรดักชัน | เพดาน R50M (~US$2.7M) | คุ้มค่าแต่มีเพดาน ขณะที่ไทยยืดหยุ่นกว่า |
ประเทศไทยถือว่ามีแพ็กเกจที่คุ้มค่าและดึงดูดที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย หากกองถ่ายมีการใช้จ่ายในประเทศตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป จะได้รับเงินคืนในอัตรา 15% ของค่าใช้จ่ายที่อนุมัติแล้ว และยังมีสิทธิ์ขอเพิ่มได้จากหลายเงื่อนไข เช่น หากโปรโมตวัฒนธรรมหรือการท่องเที่ยว หากจ้างทีมงานหลักที่เป็นคนไทย หากเลือกถ่ายทำในจังหวัดที่กำหนด หรือหากใช้บริการโพสต์โปรดักชันในประเทศ โดยรวมแล้วสามารถขอคืนได้สูงสุดถึง 30%
ข้อดีอีกอย่างคือประเทศไทยไม่มีการกำหนดเพดานต่อโครงการ หมายความว่าภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ก็สามารถใช้สิทธิ์นี้ได้เต็มที่ ค่าใช้จ่ายที่นับรวมได้มีตั้งแต่ค่าจ้างทีมงาน ค่าที่พัก ค่าเช่าอุปกรณ์ ค่าก่อสร้างฉาก ไปจนถึงบริการสนับสนุนต่าง ๆ ยกเว้นโฆษณาที่ไม่อยู่ในขอบเขตสิทธิ์ การยื่นเรื่องต้องทำล่วงหน้าผ่าน กองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ (Thailand Film Office) โดยมีผู้ประสานงานท้องถิ่นหรือบริษัทโปรดักชั่นในไทย และเงินคืนจะได้รับหลังจากผ่านการตรวจสอบและอนุมัติอย่างเป็นทางการ
นอกจากเรื่องเงินแล้ว ไทยยังมีจุดแข็งอื่น ๆ ที่ช่วยให้การถ่ายทำราบรื่น ใบอนุญาตสามารถออกได้ภายในเวลาเพียงหนึ่งถึงสองสัปดาห์ มีระบบ One-Stop ที่ช่วยจัดการเรื่องวีซ่าและใบอนุญาตทำงานสำหรับทีมงานต่างชาติ อีกทั้งยังมีมาตรการยกเว้นภาษีให้กับนักแสดงและทีมงานจากต่างประเทศ ขณะเดียวกันค่าครองชีพ เช่น โรงแรม ค่าแรง และค่าเช่าอุปกรณ์ ก็ถูกกว่าประเทศตะวันตกมาก ทำให้คุ้มค่าในภาพรวม
สหรัฐอเมริกา ไม่มีสิทธิประโยชน์ในระดับรัฐบาลกลาง แต่รัฐต่าง ๆ มีโปรแกรมของตนเอง เช่น Georgia ให้ 20% และบวกเพิ่ม 10% หากใช้โลโก้รัฐ New York คืน 30% พร้อมโบนัส 10% หากถ่ายทำในเขต Upstate New Mexico เริ่มที่ 25% และสูงสุดถึง 40% ส่วน California ให้ 20–25% แต่มีเพดานและต้องผ่านระบบจับสลาก แม้ตัวเลขสูงพอ ๆ กับไทย แต่ต้นทุนรวมในสหรัฐฯ สูงกว่าไทยมาก
แคนาดา แคนาดามีเครดิตแรงงาน 16% ระดับประเทศ และเครดิตจังหวัดระหว่าง 20–36% เช่น British Columbia ที่ให้สูงสุด 36% เมื่อรวมกันสามารถครอบคลุม 30–50% ของค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะด้านแรงงาน อย่างไรก็ตาม ค่าแรงและค่าอุปกรณ์สูง ทำให้ไทยยังคุ้มกว่ารวม ๆ
สหราชอาณาจักร สหราชอาณาจักรมีเครดิต AVEC 34% ของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในประเทศ โดยปกติจะได้รับคืนจริงประมาณ 25.5% แต่ต้องผ่าน cultural test หรือเป็นโครงการร่วมผลิตที่ได้รับการรับรอง แม้ไม่มีเพดานโครงการ แต่ค่าใช้จ่ายในสหราชอาณาจักรสูงกว่าไทยมาก
ออสเตรเลีย ออสเตรเลียเหมาะกับหนังฟอร์มใหญ่ มี Location Offset 30% สำหรับโครงการที่ใช้จ่ายอย่างน้อย 20 ล้านเหรียญออสเตรเลีย (ประมาณ 13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) งานโพสต์โปรดักชันและ VFX ได้รับสิทธิ์ PDV Offset 30% แม้ไม่ได้ถ่ายทำในประเทศ รัฐต่าง ๆ ยังมีโบนัสเพิ่มอีก 5–15% แต่สำหรับโครงการงบกลาง ไทยเข้าถึงง่ายกว่าเพราะเกณฑ์ใช้จ่ายขั้นต่ำต่ำกว่า
นิวซีแลนด์ นิวซีแลนด์ให้เงินคืนพื้นฐาน 20% และเพิ่มได้อีก 5% หากโครงการสร้างประโยชน์เพิ่มเติม เช่น โปรโมตการท่องเที่ยวหรือฝึกอบรมทีมงาน งานโพสต์โปรดักชันและ VFX ได้สิทธิ์ 20% เช่นกัน แม้ตัวเลขคล้ายไทย แต่เกณฑ์ใช้จ่ายขั้นต่ำสูงกว่าและค่าลูกเรือแพงกว่า
เยอรมนี เยอรมนีสนับสนุนการถ่ายทำที่เกี่ยวข้องกับยุโรป ผ่านโครงการ DFFF และ GMPF ที่ให้สูงสุด 30% แต่มีงบรวมต่อปีและเพดานต่อโครงการ ทำให้หนังขนาดใหญ่อาจไม่ได้รับสิทธิ์เต็มที่ ต้นทุนการถ่ายทำก็สูงกว่าไทยเช่นกัน
แอฟริกาใต้ แอฟริกาใต้คืนเงิน 25% ของค่าใช้จ่ายในประเทศ และสูงสุด 30% หากเน้นโพสต์โปรดักชัน อย่างไรก็ตาม มีเพดานต่อโครงการ R50 ล้าน (ประมาณ 2.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ทำให้ไทยยืดหยุ่นกว่าสำหรับโครงการใหญ่
สิทธิประโยชน์ด้านภาพยนตร์ของไทยในตอนนี้เรียกได้ว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง การคืนเงินสูงสุด 30% โดยไม่มีการกำหนดเพดานต่อโครงการ ผนวกกับต้นทุนการถ่ายทำที่ต่ำกว่าหลายประเทศ ทำให้ไทยก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งโดยตรงของจุดหมายปลายทางระดับโลกอย่างสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย แคนาดา และแอฟริกาใต้
การเลือกสถานที่ถ่ายทำขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละโปรเจกต์ หากต้องการสตูดิโอขนาดใหญ่และระบบงาน VFX ระดับสูง สหราชอาณาจักร แคนาดา หรือออสเตรเลียอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม หากต้องการโลเคชั่นที่มีภูมิประเทศเฉพาะตัว นิวซีแลนด์หรือแอฟริกาใต้ก็โดดเด่น แต่หากเป้าหมายคือความคุ้มค่าสูงสุด โลเคชั่นที่หลากหลาย ทีมงานคุณภาพ และสิทธิประโยชน์ที่มั่นคง ประเทศไทยคือคำตอบที่ไม่ควรมองข้าม
หากคุณต้องการพาร์ทเนอร์ถ่ายทำในประเทศไทยที่สามารถดูแลได้ครบทุกขั้นตอน MASTERY FILMS คือคำตอบ เราพร้อมจัดการตั้งแต่การขออนุญาต ทีมงานมืออาชีพ สถานที่ถ่ายทำ อุปกรณ์ ไปจนถึงงานโพสต์โปรดักชันและการจัดการเบื้องหลังทั้งหมด เพื่อให้โปรเจกต์ของคุณเดินหน้าได้อย่างราบรื่นและได้ผลงานที่สมบูรณ์แบบที่สุด เลือก MASTERY FILMS แล้วคุณจะมั่นใจได้ว่าการถ่ายทำในประเทศไทยจะทั้งคุ้มค่าและประสบความสำเร็จ